การเคลือบงานพิมพ์ (Coating Method)

งานพิมพ์แบบนี้เคลือบแบบไหนดีนะ? ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกับการเคลือบงานพิมพ์แต่ละประเภทก่อนนะคะ หลายๆ คนอาจจะยังสับสน ว่าการเคลือบมีกี่ประเภทกันแน่ วันนี้เราจึงนำประเภทการเคลือบงานพิมพ์ที่นิยมหลักๆ มาฝากค่ะ

1. การเคลือบงานพิมพ์แบบ UV

2. การเคลือบงานพิมพ์แบบ PVC / ลามิเนต

3. การเคลือบงานพิมพ์แบบวานิช

4. การเคลือบงานพิมพ์แบบ Water Base

5. การเคลือบงานพิมพ์แบบ Spot UV


 

1. เคลือบ UV

การเคลือบงานพิมพ์แบบ UV คือ การใช้น้ำมัน UV อาบผิวงานพิมพ์แล้วอบด้วยแสง UV สามารถเคลือบบนกระดาษบางมากๆ ได้ มีทั้งแบบด้านและแบบเงา แต่ที่นิยมคือการเคลือบ UV เงา ส่วนการเคลือบ UV ด้านจะเห็นกันน้อยมากๆ เพราะเห็นไม่ชัดเท่ากับการเคลือบลามิเนตด้าน ดังนั้นเมื่อพูดถึงการเคลือบ UV คนส่วนใหญ่ก็จะเข้าใจกันว่าเป็นแบบเงานั่นเอง ลักษณะงานเคลือบ UV เงา ที่ได้ผิวสัมผัสก็จะเงา เลื่อมๆ อย่างชัดเจน

 

ข้อดีของการเคลือบUV

กำลังการผลิตสูง คือผลิตได้จำนวนมาก แต่ใช้เวลาเคลือบน้อย ราคาการเคลือบ UV จึงถูกกว่าเคลือบลามิเนต

ข้อเสียของการเคลือบUV

งานพิมพ์จะมีกลิ่นเหม็น ควรหลีกเลี่ยงการใช้สำหรับบรรจุภัณฑ์อาหารและยา

การเคลือบUVเหมาะสำหรับงานอะไรบ้าง?

 ex-UV

 


2. เคลือบ PVC / ลามิเนต

การเคลือบงานพิมพ์แบบ PVC หรือ ลามิเนต คือ การใช้กาว หรือ ความร้อนอัดฟิล์มแผ่นบางๆ ให้ติดบนผิวงานพิมพ์ สามารถเคลือบได้ทั้ง 2 ด้านของงานพิมพ์ มีทั้งฟิล์มเงา (Glossy) และ ฟิล์มด้าน (Matte) แต่ที่นิยมเคลือบ PVC กันมากจะเป็นเคลือบ PVC แบบด้านเสียส่วนใหญ่

ข้อดีของการเคลือบPVC/ลามิเนต

ช่วยเพิ่มมูลค่างานพิมพ์ให้ดูหรูมีระดับ ช่วยในเรื่องของการกันความชื้น หรือ กันน้ำได้ดี เพราะฟิล์มที่ใช้มีคุณสมบัติป้องกันการซึมผ่านของน้ำได้ และช่วยเพิ่มความหนาและความแข็งแรงให้กับงานพิมพ์ได้ในระดับหนึ่ง

ข้อเสียของการเคลือบPVC/ลามิเนต

คิดราคาเป็นตารางนิ้ว ราคาค่อนข้างสูง ไม่สามารถเคลือบลงบนกระดาษบางมากๆได้ ปะกาวติดยาก หากบริเวณชิ้นงานที่ต้องการทากาวมีการเคลือบฟิล์มอยู่จะต้องใช้กาวความร้อนปะเท่านั้น

การเคลือบPVC/ลามิเนตเหมาะสำหรับงานอะไรบ้าง?

 ex-PVC

 


3. เคลือบวานิช

การเคลือบงานพิมพ์แบบวานิช คือ การเคลือบโดยการใส่น้ำมันวานิชลงไปในรางหมึกพิมพ์ แล้วปล่อยให้ไหลลงไปเคลือบผิวกระดาษ การให้เงาด้วยวานิชให้ความเงาไม่สูงมาก

ข้อดีของการเคลือบวานิช

ป้องกันหมึกพิมพ์และผิวกระดาษจากการเสียดสีและให้ความเงางาม

ข้อเสียของการเคลือบวานิช

ระยะเวลาในการแห้งตัวของวานิชค่อนข้างช้า และงานที่ถูกเคลือบด้วยวานิชนาน ๆ ไปจะออกสีเหลือง

การเคลือบวานิชเหมาะสำหรับงานอะไรบ้าง?

 ex-Spot-UV

 


4. เคลือบ Water Base

การเคลือบงานพิมพ์แบบ Water Base คือ การเคลือบลงบนผิวกระดาษให้เงาใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย จึงเรียกว่าการเคลือบ Water Base จะมีลักษณะเงาที่เป็นธรรมชาติ ไม่มันวาวเท่าการเคลือบชนิดอื่น ๆ

ข้อดีของการเคลือบWater Base

เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เนื่องจากใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย

ข้อเสียของการเคลือบWater Base

งานที่ถูกเคลือบด้วย Water Base จะค่อนข้างมันวาว และลื่น เมื่อวางงานซ้อน งานอาจจะลื่นหล่นได้

การเคลือบWater Baseเหมาะสำหรับงานอะไรบ้าง?

ex-WaterBase 


5. เคลือบ Spot UV

การเคลือบงานพิมพ์แบบ Spot UV คือ การเคลือบ UV เฉพาะจุด ซึ่งต่างจากการเคลือบ UV ทั้งแผ่น ต้องมีอุปกรณ์ เช่น บล็อก หรือ แม่แบบที่ออกแบบให้ได้ขนาด หรือ สัดส่วนเฉพาะจุดที่ต้องการลงน้ำมัน UV โดยทั่วไปจะนิยมเคลือบลามิเนตด้านก่อน แล้วค่อยลง Spot UV ทับอีกครั้ง

ข้อดีของการเคลือบPVC/ลามิเนต

ช่วยให้สามารถเน้นส่วนที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นอักษร หรือ รูปภาพที่ต้องการ เพิ่มความโดดเด่นให้กับงานพิมพ์

ข้อเสียของการเคลือบPVC/ลามิเนต

มีกลิ่นค่อนข้างแรง และราคาจะสูงกว่าการเคลือบ UV ทั้งแผ่น เนื่องจากจะต้องมีการทำบล็อกที่ใช้สำหรับการเคลือบ Spot UV เฉพาะจุด

การเคลือบPVC/ลามิเนตเหมาะสำหรับงานอะไรบ้าง?

 สื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ ที่ต้องการความโดดเด่น เช่น นามบัตร, ปกนิตยสาร, หนังสือ, แผ่นพับ, บรรจุภัณฑ์, โปสการ์ด, ป้ายติดราคา, การ์ดแต่งงาน, การ์ดต่างๆ, ปกซีดี เป็นต้น

ex-Spot-UV

Share